ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เผยนโยบายการบริหารจัดการ สำนักงาน คปภ. ใช้ระบบประกันภัยสนับสนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในเชิงรุก เร่งสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนด้วยการทำให้อุตสาหกรรมประกันภัยมีเสถียรภาพ โดยใช้ช่องทางที่เหมาะสม และสร้างเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพในการสื่อสารเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการประกันภัยให้กับประชาชน พร้อมสร้างกลไกด้านคุ้มครองสิทธิให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนทุกระดับได้รับประโยชน์สูงสุดจากระบบประกันภัยด้วยความเป็นธรรม ควบคู่กับยกระดับอุตสาหกรรมประกันภัยให้เข้มแข็ง มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล พร้อมก้าวสู่การแข่งขันเมื่อมีการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
“ระบบประกันภัยไทยต้องมีคุณภาพ เสถียรภาพ และธรรมาภิบาล รวมทั้งมีขีดความสามารถ ที่จะแข่งขันได้ในเวทีโลก ต้องสามารถเข้าถึงและได้รับการยอมรับจากประชาชนทุกระดับผมจะบูรณาการการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยอย่างมืออาชีพ ให้เต็มศักยภาพ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพเที่ยงธรรม สู่มาตรฐานสากล เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน” เลขาธิการ คปภ. กล่าวถึงวิสัยทัศน์ ด้านการกำกับและส่งเสริมธุรกิจประกันภัย
ดร.สุทธิพล กล่าวว่า จะปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่ใช้ในการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยให้มีความพอดี เท่าที่จำเป็น โดยจะผ่อนปรนกฎระเบียบการกำกับด้านราคาและผลิตภัณฑ์ให้มีความยืดหยุ่น ลดเกณฑ์หรือเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรค และจะเพิ่มเกณฑ์ที่เป็นปัจจัยสนับสนุน แต่จะเป็นลักษณะแบบค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้ จะสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ๆให้หลากหลาย โดยคำนึงถึงประชาชนทุกกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้พิการ กลุ่มผู้มีรายได้น้อย กลุ่มเกษตรกร ตลอดจนกลุ่มประกอบอาชีพที่มีความเสี่ยง ฯลฯ โดยจะส่งเสริมให้ภาคธุรกิจประกันภัยมีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม เพื่อให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน โดยหลักการสำคัญจะกำกับดูแลพฤติกรรมทางการตลาดให้มากขึ้น ให้ความสำคัญกับการเปิดเผยข้อมูล และจะปรับปรุงระบบการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าแก่บริษัทประกันภัย รวมทั้งพัฒนามาตรการตรวจสอบเฝ้าระวังเพื่อเป็นการป้องปรามปัญหาที่จะเกิดกับบริษัทผู้รับประกันภัยและประชาชนผู้เอาประกันภัย ด้วยการพัฒนาวิธีการวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยง วิเคราะห์ความสามารถทางการเงิน พัฒนาระบบการตรวจสอบติดตาม (auditing) เพื่อแจ้งเตือนให้บริษัทประกันภัยได้ป้องปรามและสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที รวมถึงส่งเสริมให้อุตสาหกรรมประกันภัยเพิ่มบทบาทในการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมที่หลากหลาย เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจประกันภัยไทย
พร้อมกันนี้ จะสนับสนุนการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมประกันภัย เพิ่มศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการ เพิ่มศักยภาพการบังคับใช้กฎหมาย ส่วนเรื่องการเพิ่มเงินกองทุนขั้นต่ำเพื่อให้สอดคล้องกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ต้องทำแบบเหมาะสมค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่การปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้การผูกพันการเปิดเสรีที่ต้องเพิ่มสัดส่วนผู้ถือหุ้นต่างชาติให้มากขึ้น ก็จะคำนึงถึงความพร้อมและผลกระทบต่อธุรกิจประกันภัยไทยด้วย
นอกจากนี้ จะเร่งดำเนินการอย่างจริงจังในการเตรียมตัวเข้าสู่ AEC จะมีการปรับปรุงกฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบของประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV เพื่อลดอุปสรรคการดำเนินธุรกิจ จะเร่งผลักดันการออกกฎหมายและกฎกติกาต่างๆ ที่จำเป็นต่อภาคธุรกิจ แต่ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มี และต้องไปหยิบยืมกฎหมายประเทศอื่นมาใช้ เช่น กฎหมายประกันภัยทางทะเล เป็นต้น และจะเร่งสร้างกลไกและปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการประกันภัยใน CLMV
ดร.สุทธิพล กล่าวว่าจะปรับปรุงกลไกด้านการระงับข้อพิพาททางเลือกให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อคุ้มครองประชาชนผู้บริโภคในวงกว้าง เพื่อนำกลไกระงับข้อพิพาทด้วยการไกล่เกลี่ยมาเสริมกลไกระงับ ข้อพิพาททางเลือกด้วยการอนุญาโตตุลาการ โดยนอกเหนือจากปรับปรุงกลไกด้านอนุญาโตตุลาการที่มีอยู่เดิมให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นแล้ว ยังจะปรับปรุงกฎระเบียบว่าด้วยการประนอมข้อพิพาทให้มีมาตรฐาน รวมทั้งจะปรับปรุงกระบวนการแต่งตั้งผู้ประนอมข้อพิพาท และผลักดันให้มีการตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยด้วย
สำหรับนโยบายการบริหารจัดการสำนักงาน คปภ. นั้น จะมุ่งการบริหารและพัฒนาองค์กรในเชิงรุกอย่างมืออาชีพ เพื่อให้สอดรับกับบทบาทและภารกิจหลักของสำนักงาน คปภ. ที่มีเป้าหมายพัฒนาธุรกิจประกันภัยของไทยให้มีศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถพร้อมรับการแข่งขัน และส่งเสริมบทบาทของธุรกิจประกันภัยให้เป็นธุรกิจที่สามารถเสริมความเข็มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
เลขาธิการ คปภ. กล่าวอีกว่า จะสร้างขวัญและกำลังใจของบุคลากร คปภ. และจะเน้นการทำงานเป็นทีม ยกเครื่องสำนักงาน คปภ. ให้มีกลไกการทำงานเชิงรุกที่ทันสมัย โดยจะพยายามหล่อหลอมสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้สำนักงาน คปภ. ทำงานด้วยความกระตือรือล้นแบบเอกชนแต่ภายใต้จิตสำนึกของข้าราชการที่ดี ยึดหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด จะให้การทำงานของสำนักงาน คปภ ทำหน้าที่ทั้งในส่วนงานกำกับและส่งเสริมระบบประกันภัยควบคู่กันไปอย่างสมดุล โดยในส่วนการกำกับจะกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยเท่าที่จำเป็น เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาระบบประกันภัยไทย และจะให้สำนักงาน คปภ. เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ พัฒนาคุณภาพบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญในงานด้านประกันภัย และทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการสร้างเครือข่ายและเพิ่มการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
ดร.สุทธิพล กล่าวว่า จะสานต่อโครงการที่เป็นประโยชน์ของสำนักงาน คปภ. เช่น การทำบันทึกความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกประเทศตลอดจนหน่วยงานกำกับดูแลด้านการประกันภัยของประเทศต่างๆ เพื่อให้เกิดการปฏิบัติร่วมมือกันอย่างจริงจัง จะปรับปรุงการทำงานของสถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูงให้มีหลักสูตรที่ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากลตลอดจนเพิ่มบทบาทในส่วนงานศึกษาและวิจัยนอกเหนือจากงานฝึกอบรมแบบเดิมๆ ที่เคยดำเนินการมารวมทั้งจะเร่งพัฒนาฐานข้อมูลที่จำเป็นในการกำกับและตรวจสอบบริษัทประกันภัยที่แม่นยำและทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน
“ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแนวคิดในการบริหารจัดการด้านการประกันภัยและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง และแนวคิดในการบริหารจัดการสำนักงาน คปภ. ของผม จะช่วยเพิ่มความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น และยังเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจของประเทศเข้มแข็งด้วยแนวคิดการส่งเสริมบริษัทประกันภัยให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ยั่งยืน และมีธรรมาภิบาล” ดร.สุทธิพล กล่าวย้ำ
www.oic.or.th
สำนักงาน คปภ. วันที่ 17 พฤศจิกายน 2558
เลขาธิการ คปภ. ปาฐกถาพิเศษ ในงานครบรอบ 48 ปี สมาคมประกันวินาศภัยไทย
19 พฤศจิกายน 2558 ทั่วไป“ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ” เข้ารับมอบตำแหน่ง เลขาธิการ คปภ.
02 พฤศจิกายน 2558 ทั่วไป