นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่าภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสที่ 2 / 2557 มีสัญญาณการปรับตัวดีขึ้น โดยขยายตัวร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ในประเทศ และต่างประเทศ โดยเฉพาะการอุปโภคบริโภคของครัวเรือน และการใช้จ่ายเพื่อการลงทุนของทั้งภาครัฐ และเอกชน ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจประกันภัยในช่วง 6 เดือนแรก (มกราคม – มิถุนายน) ปี 2557 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวมทั้งสิ้น 355,605 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 13.51 มีสัดส่วนเบี้ยประกันภัยต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ร้อยละ 5.6 จากธุรกิจประกันชีวิต ร้อยละ 4 และธุรกิจประกันวินาศภัยร้อยละ 1.7
โดยแบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยจากธุรกิจประกันชีวิต จำนวน 253,871 ล้านบาท ขยายตัวอย่างโดดเด่นที่ร้อยละ 19.28 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อธุรกิจประกันชีวิตซึ่งมีการพัฒนาช่องทางการขายให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการประกันภัยได้อย่างเพียงพอและทั่วถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มช่องทางการขายผ่านร้านสะดวกซื้อต่างๆ รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยสำหรับรายย่อยใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนผู้มีรายได้น้อย โดยการประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันภัยรับสูงสุด คือ การประกันชีวิตประเภทสามัญ จำนวน 218,269 ล้านบาท ขยายตัวในอัตราเร่งที่ร้อยละ 23.75 รองลงมาประเภทกลุ่ม จำนวน 28,785 ล้านบาท หดตัวร้อยละ 3.28 และประเภทอุตสาหกรรม จำนวน 3,921 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 0.19 และจากธุรกิจประกันวินาศภัย จำนวนรวมทั้งสิ้น 101,734 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 1.28 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการประกันภัยรถมีเบี้ยประกันภัยรับสูงสุด จำนวน 59,274 ล้านบาท หดตัวเล็กน้อยที่ ร้อยละ 0.48 รองลงมาการประกันภัยเบ็ดเตล็ด จำนวน 33,999 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 5.25 และ การประกันอัคคีภัย จำนวน 5,745 ล้านบาท หดตัวร้อยละ 2.65
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเสริมว่าแม้ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาสภาวะเศรษฐกิจไทยจะอยู่ในภาวะ ชะลอตัว อย่างไรก็ตามภาพรวมธุรกิจประกันภัยยังคงมีความเข้มแข็ง สะท้อนได้จากตัวเลขธุรกิจประกันภัยในช่วง 6 เดือนแรก มีอัตราการเจริญเติบโตถึงร้อยละ 13.51 ซึ่งหากว่าธุรกิจประกันภัยยังสามารถรักษาอัตราการเติบโตที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง สำนักงาน คปภ. คาดว่าอัตราการเติบโตของธุรกิจประกันภัย เมื่อสิ้นปี 2557 จะอยู่ที่ ร้อยละ15.57 จากการประกันชีวิต ร้อยละ 22.99 และประกันวินาศภัย ร้อยละ 3.78 อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ธุรกิจประกันภัยเติบโตอย่างยั่งยืนตามเป้าหมายที่ได้วางเอาไว้ สำนักงาน คปภ. และภาคธุรกิจประกันภัยจะมุ่งเน้นประสานความร่วมมือในการผลักดันให้ประชาชนในวงกว้างสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากระบบประกันภัยได้อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประกันภัยสำหรับรายย่อย ที่มีอัตราเบี้ยประกันภัยต่ำ มีความคุ้มครองที่เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน และหาซื้อได้สะดวก
ที่มา : http://www.oic.or.th/ ศุกร์ที่ 12 กันยายน 2557
The Asia InsurTech Summit 2018
07 กุมภาพันธ์ 2561 ทั่วไป