นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการกองทุนประกันภัยพืชผล และคณะผู้บริหารสมาคมฯ ลงพื้นที่ ณ จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อตรวจเยี่ยมผลการดำเนินงานโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน ภายใต้ความร่วมมือระหว่างสมาคมประกันวินาศภัยไทย กับสถาบันน้ำนิเทศศาสนคุณ พร้อมทั้งเยี่ยมชมและติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบการจัดการน้ำใต้ดินในพื้นที่แห้งแล้งที่อยู่นอกเขตชลประทาน และศูนย์การเรียนรู้ด้านการเพาะปลูกข้าวหอมมะลิคุณภาพสูงและพืชผลนอกฤดูกาลในภาคอีสาน ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) วิทยาเขตร้อยเอ็ด ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 – 2 ธันวาคม 2564 ดังนี้

1. การติดตามการใช้ประโยชน์จากโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน “หนองฮีโมเดล” ของชุมชน ในพื้นที่ตำบลดูกอึ่งและตำบลเด่นราษฎร์ อำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด (เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564) :

คณะกรรมการกองทุนประกันภัยพืชผล และคณะผู้บริหารสมาคมฯ ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมผลการดำเนินงานโครงการบริหารจัดการแหล่งน้ำชุมชนเพื่อการมีน้ำใช้อย่างสมดุลและยั่งยืน หรือโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน ในตำบลดูกอึ่ง ตำบลเด่นราษฎร์ อำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งกองทุนประกันภัยพืชผล สมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณแก่สถาบันน้ำนิเทศศาสนคุณในการดำเนินการขุดบ่อธนาคารน้ำใต้ดิน โดยขอบเขตการดำเนินงานในพื้นที่ตำบลดูกอึ่งและตำบลเด่นราษฎร์ อำเภอหนองฮี ครอบคลุมพื้นที่ 78,913 ไร่ รวม 30 หมู่บ้าน ประชากร 9,408 ครัวเรือน จำนวนบ่อธนาคารน้ำใต้ดินที่ขุดรวม 3,095 บ่อ ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 18,920,000 บาท ทั้งนี้ จากการตรวจเยี่ยมพบว่า น้ำในบ่อธนาคารน้ำใต้ดินทั้งบ่อเปิดและบ่อทูอินวันยังคงมีปริมาณมาก และชาวบ้านบางครัวเรือนได้ขุดบ่อตามหลักการธนาคารน้ำใต้ดินในพื้นที่ของตัวเองเพื่อนำน้ำที่อยู่ภายในชั้นหินอุ้มน้ำใต้ดินที่เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายมาใช้ในการเกษตร

2. การเยี่ยมชมและติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้และเป็นต้นแบบการจัดการน้ำใต้ดินในพื้นที่แห้งแล้งที่อยู่นอกเขตชลประทาน และศูนย์การเรียนรู้ด้านการเพาะปลูกข้าวหอมมะลิคุณภาพสูงและพืชผลนอกฤดูกาลในภาคอีสาน ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตร้อยเอ็ด ณ ทุ่งกุลาร้องไห้ ตำบลหินกอง อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด (เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564) :

คณะกรรมการกองทุนประกันภัยพืชผล และคณะผู้บริหารสมาคมฯ ลงพื้นที่ ณ มทร.อีสาน วิทยาเขตร้อยเอ็ด เพื่อรับฟังรายงานสรุปผลการดำเนินงานโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านการบริหารจัดการน้ำตามหลักการธนาคารน้ำใต้ดิน และการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ด้านการเพาะปลูกข้าวหอมมะลิคุณภาพสูงและพืชผลนอกฤดูกาล ของ มทร.อีสาน วิทยาเขตร้อยเอ็ด ซึ่งสมาคมฯ ได้ให้การสนับสนุนขุดบ่อธนาคารน้ำใต้ดินจำนวน 14 บ่อ เพื่อให้เป็น “ศูนย์การเรียนรู้การจัดการน้ำครบวงจรด้วยระบบธนาคารน้ำใต้ดิน” และเป็นต้นแบบของการจัดการน้ำใต้ดินในพื้นที่แห้งแล้งที่อยู่นอกเขตชลประทาน รวมทั้งเป็น “ศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านการเพาะปลูกข้าวหอมมะลิคุณภาพสูงและพืชผลนอกฤดูกาล” เพื่อให้เกษตรกรตลอดจนผู้สนใจเข้ามาเรียนรู้และนำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่การเกษตรของตนเองได้ต่อไป โดยมี ผศ.ดร.เอนก เจริญภักดี รองอธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษ ให้การต้อนรับ และอาจารย์สุบรรณ์ ทุมมา ผู้ช่วยอธิการบดี และหัวหน้าศูนย์วิจัยและถ่ายทอดเทคโนโลยีทุ่งกุลาร้องไห้ บรรยายสรุปพร้อมพาเยี่ยมชมพื้นที่การเพาะปลูกพืชชนิดต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัยที่ใช้ประโยชน์จากน้ำในบ่อธนาคารน้ำใต้ดินที่สมาคมฯ ให้การสนับสนุน เช่น ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ซึ่งจากการตรวจเยี่ยมพบว่า พื้นที่เดิมซึ่งเคยเป็นดินทรายแห้งแล้งมีความชุ่มชื้นมากขึ้นหลังจากที่ได้ขุดบ่อธนาคารน้ำใต้ดิน และสามารถนำมาใช้เป็นพื้นที่เพื่อเพาะปลูกพืชได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ สมาคมประกันวินาศภัยไทย โดยกองทุนประกันภัยพืชผล ได้สนับสนุนงบประมาณจำนวน 1,780,000 บาท ในการขุดบ่อธนาคารน้ำใต้ดิน รวมทั้งสนับสนุนงบประมาณสำหรับดำเนินการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านการบริหารจัดการน้ำตามหลักการธนาคารน้ำใต้ดิน และการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ด้านการเพาะปลูกข้าวหอมมะลิคุณภาพสูงและพืชผลนอกฤดูกาล ให้แก่ มทร.อีสาน จำนวน 1,500,000 บาท

3. การตรวจเยี่ยมผลการดำเนินงานโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน ภายใต้ความร่วมมือระหว่างสมาคมประกันวินาศภัยไทย กับสถาบันน้ำนิเทศศาสนคุณ ในพื้นที่ตำบลสระคู อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด (เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2564) :

คณะกรรมการกองทุนประกันภัยพืชผล และคณะผู้บริหารสมาคมฯ ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมผลการดำเนินงานโครงการบริหารจัดการแหล่งน้ำชุมชนเพื่อการมีน้ำใช้อย่างสมดุลและยั่งยืน หรือโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน ในตำบลสระคู อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งกองทุนประกันภัยพืชผล สมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณแก่สถาบันน้ำนิเทศศาสนคุณในการดำเนินการขุดบ่อธนาคารน้ำใต้ดินด้วย โดยขอบเขตการดำเนินงานในพื้นที่ตำบลสระคู อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ครอบคลุมพื้นที่ 88,862 ไร่ รวม 21 หมู่บ้าน ประชากร 3,286 ครัวเรือน จำนวนบ่อธนาคารน้ำใต้ดินที่ขุดรวม 2,473 บ่อ ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 23,285,500 บาท ทั้งนี้ ในพื้นที่ตำบลสระคูนอกจากจากจะมีการทำบ่อปิด บ่อเปิด และบ่อทูอินวันตามหลักการธนาคารน้ำใต้ดินแล้ว ยังมีการทำบ่อเจาะกระจายไปตามจุดต่าง ๆ บริเวณริมฝั่งลำน้ำเสียวเพื่อให้เกิดการแพร่กระจายของน้ำที่อยู่ภายในชั้นหินอุ้มน้ำใต้ดินจากลำน้ำเสียวไปสู่พื้นที่โดยรอบที่เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายด้วย

อนึ่งโครงการธนาคารน้ำใต้ดินในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยกองทุนประกันภัยพืชผล สมาคมประกันวินาศภัยไทย เป็นโครงการช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรที่ประสบปัญหาทางการเกษตรเนื่องจากภัยแล้งและน้ำท่วมให้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยการขับเคลื่อนร่วมกับชุมชน สร้างการมีส่วนร่วมในการช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งและภัยน้ำท่วมได้อย่างยั่งยืน โดยใช้แนวทางการบริหารจัดการน้ำตามแนวคิดของ “ธนาคารน้ำใต้ดิน” ของพระนิเทศศาสนคุณ หรือหลวงพ่อสมาน สิริปัญโญ ประธานสถาบันน้ำนิเทศศาสนคุณ และประธานมูลนิธิสิริปัญโญ ทั้งนี้ สมาคมฯ ได้คัดเลือกพื้นที่ที่อยู่ในเขตทุ่งกุลาร้องไห้ซึ่งมีความแห้งแล้งและประสบกับภาวะน้ำท่วมซ้ำซาก เป็นพื้นที่นำร่องในการทำธนาคารน้ำใต้ดินเพื่อเป็นต้นแบบให้กับชุมชนอื่น ๆ ได้ต่อไป