สมาคมประกันวินาศภัยไทย เผยผลการดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปี 2560 มีเกษตรกรเข้าร่วม 1.58 ล้านราย มีพื้นที่เอาประกันภัย 23.7 ล้านไร่ มีเบี้ยประกันภัยรับสุทธิ 2,137 ล้านบาท ประกาศจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ชาวนา ครั้งที่ 1 ที่ได้รับความเสียหายจากภัยน้ำท่วมทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ รวมกว่า 224 ล้านบาท โดย 5 จังหวัดแรกที่เสียหายสูงสุด คือ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด สกลนคร นครพนม และนครราชสีมา ตามลำดับ
นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมประกันวินาศภัยไทยโดยบริษัทประกันภัย จำนวน 24 บริษัท ได้ให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการเป็นผู้บริหารจัดการความเสี่ยงภัยธรรมชาติด้านการเพาะปลูกให้กับเกษตรกร ในโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2560 ซึ่งขณะนี้ สมาคมฯ ได้รับรายงานข้อมูลการรับประกันภัยในโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปี 2560 ของทุกภาค ยกเว้นภาคใต้ที่จะสิ้นสุดการรับประกันภัย ในวันที่ 15 ธันวาคม 2560 ปรากฏว่า มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการจำนวน 1.58 ล้านราย มีพื้นที่เอาประกันภัย จำนวน 23.7 ล้านไร่ มีเบี้ยประกันภัยรับสุทธิ 2,137 ล้านบาท
จากสถานการณ์ฝนตกหนักเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ สร้างความเสียหายให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเป็นจำนวนมาก สมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้ประสานงานกับกรมส่งเสริมการเกษตร ในการส่งข้อมูลการขึ้นทะเบียนและพื้นที่ปลูกข้าวที่ได้รับความเสียหาย เพื่อให้การจ่ายค่าสินไหมทดแทนได้อย่างรวดเร็วที่สุด โดยการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากภัยน้ำท่วม ครั้งที่ 1 นี้ มียอดค่าสินไหมทดแทนรวมทั้งสิ้น 224,863,816.04 บาท มีพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายรวม 178,463.34 ไร่ มีเกษตรกรได้รับความเสียหายจำนวน 22,423 ราย โดยพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายสูงสุด 5 จังหวัดแรก ได้แก่ 1.) จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 44,665 ไร่ ค่าสินไหมทดแทน 56,277,991.51 บาท (25%) 2.) จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 36,973 ไร่ ค่าสินไหมทดแทน 46,585,915.28 บาท (21%) 3.) จังหวัดสกลนคร จำนวน 34,671 ไร่ ค่าสินไหมทดแทน 43,685,299.51 บาท (19%) 4.) จังหวัดนครพนม จำนวน 19,545 ไร่ ค่าสินไหมทดแทน 24,626,499.53 บาท (11%) 5.) จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 18,433 ไร่ ค่าสินไหมทดแทน 23,226,043.81 บาท (10%) และพื้นที่อื่น ๆ จำนวน 24,176 ไร่ ค่าสินไหมทดแทน 30,462,066.40 บาท (14%) ตามลำดับ ทั้งนี้ สมาคมฯ ได้ทำการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ครั้งที่ 1 ให้กับเกษตรกรผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไปแล้ว
นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2560 นี้ สมาคมฯ สามารถดำเนินการพิจารณาจ่ายค่าสินไหมดทดแทนให้กับเกษตรได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากสมาคมฯ ได้พัฒนาระบบการเชื่อมข้อมูลการทำประกันภัยข้าวนาปี กับ ธ.ก.ส. และเชื่อมข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกร และรายงานข้อมูลความเสียหายรายแปลงในพื้นที่ที่รัฐประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ กับกรมส่งเสริมการเกษตร จึงทำให้มีข้อมูลที่สมบูรณ์พร้อมในการพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ให้กับเกษตรกรได้อย่างถูกต้อง รวดเร็วนั่นเอง
สำหรับโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปี 2560 เกษตรกรที่ทำประกันภัยข้าวนาปี จะได้รับความคุ้มครองความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ วงเงินความคุ้มครอง 1,260 บาทต่อไร่ ทั้งหมด 6 ภัย ได้แก่ น้ำท่วมหรือฝนตกหนัก ภัยแล้ง ฝนแล้งหรือฝนทิ้งช่วง ลมพายุหรือพายุไต้ฝุ่น ภัยอากาศหนาวหรือน้ำค้างแข็ง ลูกเห็บและไฟไหม้ โดยจะต้องอยู่ในพื้นที่ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ สำหรับกรณีเกิดความเสียหายจากภัยศัตรูพืชและโรคระบาด วงเงินความคุ้มครอง 630 บาทต่อไร่ ซึ่งเกษตรกรสามารถตรวจสอบสถานะการประกันภัย และสถานะการจ่ายค่าสินไหมทดแทนได้ง่ายและรวดเร็ว จากระบบออนไลน์เคลมแอพพลิเคชั่น “มะลิ” ผ่านโทรศัพท์มือถือได้ที่ rice.tgia.org ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสอบถามสายด่วนประกันภัยข้าวนาปี สมาคมประกันวินาศภัยไทย โทร. 061 404-4422
ประชุมหารือการดำเนินโครงการ ธนาคารน้ำใต้ดิน
05 February 2020 Crop Insurance Project