สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) มองแนวโน้มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) จะทำประกันภัยมากขึ้น หลังรัฐบาลมีนโยบายหนุนธุรกิจเอสเอ็มอีให้เติบโต แนะบริษัทประกันภัยออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ รองรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
นางคนึงนิจ สุจิตจร ผู้ช่วยเลขาธิการ สายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย สำนักงาน คปภ.เผยว่า นโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนภาคธุรกิจเอสเอ็มอีเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จะทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าสู่ระบบการประกันภัยมากขึ้น ดังนั้น บริษัทประกันภัยจึงควรต้องเตรียมตัวรองรับตลาดประกันภัยสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอีที่คาดว่าจะขยายตัวมากขึ้น เธอมองว่า เอสเอ็มอีเป็นหัวจักรสำคัญอันหนึ่งที่มีบทบาทต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ การที่ภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนเอสเอ็มอี จะทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยเหล่านี้มีฐานะการเงินดีขึ้น มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น และช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ รวมถึงส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมอีกด้วย
“ปัจจุบันเอสเอ็มอีทำประกันภัยไม่ถึง 1% ของจำนวนเอสเอ็มอีทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 2.7 ล้านรายทั่วประเทศ เมื่อผู้ประกอบการรายย่อยเหล่านี้มีผลการดำเนินงานดีขึ้น เชื่อว่าจะกันเม็ดเงินส่วนหนึ่งมาทำประกันภัยเพื่อบริหารความเสี่ยงให้กับธุรกิจของตัวเอง” ผู้ช่วยเลขาธิการ สายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย สำนักงานคปภ. กล่าว
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีการทำประกันภัยน้อยส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และอาจยังไม่เห็นความจำเป็นเร่งด่วนในการใช้ระบบประกันภัยบริหารความเสี่ยงของธุรกิจ ดังนั้น คปภ.จึงมีนโยบายเน้นการให้ความรู้ความเข้าใจถึงความสำคัญของการทำประกันภัยต่อการประกอบกิจการของเอสเอ็มอีมากขึ้น
สำหรับความคุ้มครองจากการทำประกันภัยซึ่งผู้ประกอบการเอสเอ็มอีควรให้ความสำคัญ คือ การประกันอัคคีภัย การประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน การประกันภัยโจรกรรม การประกันภัยสำหรับเงิน การประกันภัยอุบัติเหตุในสถานประกอบการ การประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอกและการประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก เป็นต้น ทั้งนี้ ปัจจุบันมีกรมธรรม์ประกันภัยขายเป็นแบบแพคเกจให้ผู้ประกอบการ SME เลือกตามความเสี่ยง
นางคนึงนิจ กล่าวว่า ในส่วนของบริษัทประกันภัยนั้น ควรเตรียมการรองรับกับลูกค้าเอสเอ็มอีที่จะเข้าสู่ระบบประกันภัยมากขึ้น รวมถึงความหลากหลายของธุรกิจเอสเอ็มอีที่จะมีมากขึ้นเช่นกัน บริษัทประกันภัยในฐานะผู้ออกกรมธรรม์จึงต้องออกแบบผลิตภันฑ์ให้ตรงกับความต้องการ และเหมาะสมกับธุรกิจของเอสเอ็มอี เพราะนอกจากจะดึงดูดความน่าสนใจแล้ว ยังเป็นการบริหารความเสี่ยงให้กับบริษัทประกันภัยเองด้วย
“ธุรกิจเอสเอ็มอีมีหลายประเภท บริษัทประกันภัยเองก็ต้องเตรียมความพร้อมในการรับความเสี่ยงสำหรับธุรกิจนั้นๆ ได้มากมายเพียงใด และอาจจะต้องมีการกระจายความเสี่ยงด้วยการทำประกันภัยต่อไปยังต่างประเทศ การออกแบบผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าและความพร้อมของบริษัท จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะบริหารความเสี่ยงของตนด้วย ผู้ช่วยเลขาธิการ สายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย กล่าว
www.oic.or.th
สำนักงาน คปภ. วันที่ 12 ตุลาคม 2558
อุทาหรณ์แผ่นดินไหวแนะซื้อคุ้มครองภัยธรรมชาติ
15 May 2014 General