เทเวศฯ โชว์ผลงานชิ้นโบแดงเบี้ยประกันภัยรับรวมสูงขึ้น 26% ระบุกลุ่มอัคคีภัย อุบัติเหตุส่วนบุคคล และรถยนต์ ขยายตัวมากสุด ลั่นปีนี้ตั้งเป้าพัฒนาประสิทธิภาพงานด้านบริการอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดสาขาเชียงราย เกาะสมุย และ Deves Station BTS เพลินจิต เพื่อการบริการครอบคุลม พร้อมยกระดับมาตรฐานการบริการของอู่ซ่อมในโครงการ “อู่นี้เทเวศเชียร์” เพิ่มขึ้น 10 แห่ง ด้าน BKI เดินรุกแผนครึ่งปีหลัง ยันไม่ตัดราคาขายประกันดันเบี้ยรับ 16,325 ล้าน

          นายชาติชาย ชินเวชกิจวานิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับรวม (Gross Premium) 1,024 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 26 และสูงกว่าแผนงานร้อยละ 5 มีเบี้ยประกันภัยรับสุทธิ (Net Premium) 582 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 36 และลดลงกว่าแผนงานร้อยละ 5 มีเบี้ยประกันภัยที่ถือเป็นรายได้ (Earned Premium) 541 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 36 และสูงกว่าแผนงานร้อยละ 2 มีกำไรขั้นต้น 145 ล้านบาท ลดลงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 15 และสูงกว่าแผนงานร้อยละ 6

          บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยที่ถือเป็นรายได้ 541 ล้านบาท มีรายได้จากการลงทุนและรายได้อื่นจำนวน 49 ล้านบาท เมื่อหักค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยและค่าใช้จ่ายดำเนินงานแล้ว บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงาน 69 ล้านบาท และมีกำไรสำหรับไตรมาส 1 เท่ากับ 50.63 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 1.01 บาท

          เบี้ยประกันภัยรับรวมของบริษัทฯ สิ้นสุดไตรมาสแรกขยายตัวร้อยละ 26 สูงกว่าเป้าหมาย เป็นการขยายตัวมากที่สุดในกลุ่มอัคคีภัย อุบัติเหตุส่วนบุคคล และรถยนต์ ซึ่งเป็นไปตามทิศทางที่บริษัทฯ กำหนดไว้ ทั้งนี้ในปี 2557 บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะพัฒนาประสิทธิภาพงานด้านบริการให้ดียิ่งขึ้นต่อ เนื่องจากที่ผ่านมาเพื่อตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าโดยเฉพาะด้านรถยนต์ที่จะขยายตัวมากขึ้น โดยขยายสาขาและสาขาย่อยให้มีจำนวนรวม 18 แห่งและศูนย์บริการ Deves Station จำนวน 13 แห่ง ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคและแหล่งธุรกิจที่สำคัญ ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เปิดดำเนินการสาขาเชียงราย เกาะสมุย และ Deves Station BTS เพลินจิต และจะเปิดสาขามุกดาหารเป็นสาขาต่อไป

          ในส่วนการบริการโดยเฉพาะการประกันภัยรถยนต์ที่ตั้งเป้าให้มีการขยายตัวสูงนั้น บริษัทฯ ได้ยกระดับมาตรฐานการบริการของอู่ซ่อมในโครงการ “อู่นี้เทเวศเชียร์” เพิ่มขึ้นอีก 10 แห่งเพื่อรับรองคุณภาพของอู่ซ่อมและเพิ่มประสิทธิภาพการบริการของบริษัทฯ นอกเหนือไปจากการพัฒนาระบบ I-Survey โดยการนำ Smart Phone มาใช้ในการให้บริการตรวจสอบอุบัติเหตุสำหรับพนักงานตรวจสอบอุบัติเหตุของบริษัทฯ การใช้ระบบ E-Billing กับอู่ (ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล) ฯลฯ

          บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทประกันวินาศภัยของคนไทยที่มีฐานะทางการเงินมั่นคง ดำเนินงานด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใสตลอดระยะเวลายาวนานกว่า 67 ปี ปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท

          ขณะที่นายพนัส ธีรวณิชย์กุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ปี 2557 (ม.ค.-มี.ค.) มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 3,897.0 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2556 ลดลงร้อยละ 7.9 กำไรจากการรับประกันภัยหลังหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานแล้ว 420.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 623.4 รายได้สุทธิจากการลงทุน 337.2 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 16.8 กำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 736.9 ล้านบาท และเมื่อหักค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้แล้ว

          โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 627.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 61.0 กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 5.89 บาท ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ซึ่งได้ประชุมเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2557 มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดที่ 1 (ม.ค.-มี.ค.) ของปี 2557 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 2.75 บาท

          สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมประกันในช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมานั้นจากปัญหาทางการเมืองที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ พบว่าประกันวินาศภัยเติบโตอยู่ที่ 34,574 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3% ขณะที่ประกันภัยรถยนต์โตอยู่ที่ 19,424 ล้านบาท คิดเป็น 0.8% ด้านเศรษฐกิจในปีนี้ต้องดูปัจจัยต่างๆ ได้แก่ การเติบโตของจีดีพี ซึ่งในปีนี้คาดว่าโต 1.5-2%

          ด้านแผนงานในปีนี้ที่เหลือบริษัทจะไม่เน้นแข่งขันด้านราคา เพราะช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมามีเบี้ยรับเติบโตในระดับสองหลักอยู่แล้ว ดังนั้นจึงจะไปเน้นเรื่องระบบปฏิบัติงานในด้านต่างๆ ทั้งระบบการให้บริการทางออนไลน์ การดูแลเรื่องสินไหม การดูแลลูกค้าโดยระบบทางโทรศัพท์ รวมไปถึงเน้นการควบคุมเรื่องภัยสะสมอย่างแผ่นดินไหว

          “จากปัจจัยผลกระทบต่างๆ ดังกล่าวและเพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยงบริษัทเตรียมปรับประมาณการอัตราการเติบโตจากเดิม 15% หรือ 18,000 ล้านบาท ลดลงเหลือ 5% โดยในครึ่งปีหลังนี้จะไม่มุ่งเน้นแข่งขันในด้านราคาจะเน้นให้การบริการที่มีคุณภาพ ในส่วนของการให้บริการในด้านสินไหม”

ที่มา http://www.banmuang.co.th/ อังคารที่ 27 พฤษภาคม 255