นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ช่วงเช้ามืดของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 เกิดอุบัติเหตุรถบัสโดยสาร หมายเลขทะเบียน 30-0427 ขอนแก่น นำนักเรียนโรงเรียนบ้านดงหลบไปทัศนศึกษา พุ่งชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อ ทะเบียน 84-9179 นครราชสีมา บริเวณทางหลวงสาย 304 กบินทร์บุรี-นครราชสีมา ช่วงหลัก กม.ที่ 42-43 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย และบาดเจ็บกว่า 40 ราย นั้น
ทั้งนี้ คปภ. ได้ประสานสำนักงาน คปภ. จังหวัดปราจีนบุรี ทราบเบื้องต้นว่ารถบัสคันดังกล่าว ได้จัดทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) และทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ (ประเภท 2) กับบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ส่วนรถพ่วง 18 ล้อ พ่วงตัวแม่ทำประกันภัยรถภาคบังคับและภาคสมัครใจ (ประเภท 1) กับบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งทายาทผู้ประสบภัยและผู้ประสบภัยจะได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัย
นายประเวช กล่าวว่า ผู้ประสบภัยที่เสียชีวิต ทุพพลภาพถาวร หรือสูญเสียอวัยวะ ทายาทสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ดังนี้ โดยเฉพาะความคุ้มครองจากการประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) 200,000 บาทต่อคน ผู้ขับขี่จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้น รวมไปถึงความคุ้มครองจากการประกันภัยรถภาคสมัครใจ (ประเภท 2) กรณีไม่มีผู้ขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 100,000 บาทต่อคน หรือกรณีมีผู้ขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 300,000 บาทต่อคน และความคุ้มครองจากการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) สำหรับผู้ขับขี่ 50,000 บาท และผู้โดยสาร 53 คน คนละ 50,000 บาท
ขณะที่ผู้ประสบภัยที่ได้รับบาดเจ็บสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้ รวมไปถึงความคุ้มครองจากการประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาทต่อคน และค่าชดเชยรายวัน สำหรับผู้ประสบภัยที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล วันละ 200 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 วัน และความคุ้มครองจากการประกันภัยรถภาคสมัครใจ (ประเภท 2) ได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินความคุ้มครองที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเสริมว่า อุบัติเหตุครั้งนี้มีความสูญเสียจำนวนมาก สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต และได้ประสานบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เพื่อเร่งดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ทายาทผู้เสียชีวิตโดยเร็ว และขณะนี้บริษัทประกันภัยได้ส่งพนักงานไปประสานโรงพยาบาลที่รับรักษาพยาบาลผู้ประสบภัย เพื่ออำนวยความสะดวกด้านค่ารักษาพยาบาลแล้ว
ทั้งนี้ ขอให้ผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ และผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะต้องรับผิดชอบผู้โดยสารจำนวนมาก ให้ความสำคัญในสวัสดิภาพและความปลอดภัยของผู้โดยสาร ขับรถด้วยความระมัดระวัง อย่าประมาท และขอให้ตรวจสอบวันหมดอายุของกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ และกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคสมัครใจ เพื่อให้มีความคุ้มครองตลอดเวลา เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น เจ้าของรถและผู้ประสบภัยจะได้รับความคุ้มครองจากระบบประกันภัย สามารถบรรเทาผลกระทบความเดือดร้อนของท่านได้
ที่มา http://www.banmuang.co.th/ พุธที่ 5 มีนาคม 2557
นวลพรรณ ล่ำซำ สร้างฐานใหม่ “เมืองไทยประกันภัย”
09 March 2015 General